การเงิน 20 พ. ย. 2562 เวลา 10:00 น. 1. 6k "ปตท" คาดไตรมาส 4/62 ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแตะ 59-60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากไตรมาส 3/62 เหตุ ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลขาดทุนสต็อกน้ำมัน แต่เชื่อไม่มาก ยอมรับปีนี้ผลการดำเนินงานต่ำกว่าปีก่อน เหตุ ราคาน้ำมัน-ธุรกิจปิโตรเคมีแย่ นางพรรณพร ศาสนนันทน์ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า บริษัทคาดราคาน้ำมันดิบดูไบไตรมาส 4 ปี 2562 คาดว่าจะปรับตัวลดลง อยู่ที่ 59-60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากไตรมาส 3 ปี 2562 อยู่ที่ 61. 2 ดอลลาร์ต่อบาร์ เนื่องจาก จากโรงกลั่นในต่างประเทศที่มีการหยุดซ่อมบำรุงในไตรมาส 3ที่ผ่านมาจะกลับมาผลิตตั้งแต่เดือนต. ค. และการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันที่สหรัฐจะมีการเสร็จ ทำให้สหรัฐ ฯจะมีการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ไตรมาสนี้ บริษัทจะมีผลขาดทุนสต็อกน้ำมัน แต่เชื่อว่าจะไม่มาก เพราะที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวลงไปมากแล้ว โดยขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2562 จะปรับตัวลดลงจากไตรมาส3 ปี 2562 หรือไม่ เพราะ นอกจากราคาน้ำมันดิบแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัย ทั้งธุรกิจปิโตรเคมี และ ธุรกิจอะโรเมติกส์ อ่านข่าว-ปตท.
#1 เลทหลวงปู่เฮงไตรมาส 59 เลข53รวมได้ 8 ราคายังไม่โดน ถือว่า (โชว์) ครับ FB: เปาเปา ยิ้มรับทรัพย์ 61 KB · Views: 0 72. 1 KB · Views: 0 #2 ลงยาได้ละเอียด #3 ราคาครับท่าน #4 โอ้โหมีแต่เลขมงคล #5 ราคาดีโดนใจเอาไปเลย
7% ใน ไตรมาส 1/59 จาก 26. 2% ในไตรมาส 4/58และค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง 6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 1%เทียบไตรมาสก่อนหน้าทั้งนี้เพราะในไตรมาส 4/58 มีการบันทึกค่าใช้จ่ายด้านแรงงานและโบนัสเข้ามา 130 ล้านบาท โดย 110 ล้านบาทอยู่ในต้นทุนขายเพราะเป็นค่าแรงงาน และอีก 20 ล้านบาทอยู่ใน SG&A แต่ถ้าไม่รวมรายการนี้พบว่า อัตรากำไรขั้นต้นใน ไตรมาส 1/59 ลดลง 279bps เพราะราคาขาย MDF และ Particle board ลดลงราว 10%เทียบไตรมาสก่อนหน้าจากการแข่งขันในตลาดตะวันออกกลางสูงขึ้น คาดว่ากำไรไตรมาส 3/59 จะเพิ่มขึ้นและดีที่สุดในปีนี้ เนื่องจากมีกำลังการผลิต MDF board เพิ่มขึ้นอีก 3 แสนลบม. ต่อปี ซึ่งมาจากการเปลี่ยนสายการผลิต Particle board ทั้งนี้โดยปกติแล้วอัตรากำไรขั้นต้นของ MDF จะสูงกว่า Particle ราว 10% ขณะเดียวกัน 3Q เป็นช่วง High season ของการส่งออกด้วย แนวโน้มระยะยาวไปได้ดี โดยปัจจัยหนุนการเติบโตของกำไรในปี 59 คือ ต้นทุนการผลิตลดลงและในครึ่งหลังปี59 มียอดขายของ MDF board จากการเปลี่ยนสายการผลิตเข้ามาเต็มที่ รวมทั้งยอดขาย Laminate flooring จะเพิ่มขึ้นได้ราว 60% หลังมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 10 ล้านตรม. และทยอยผลิตเพิ่ม โดยผลิตภัณฑ์นี้ขายในประเทศ 70% และส่งออก 30% ส่วนปัจจัยหนุนปี 60 คือ กำลังการผลิต Particle และ MDF board มากขึ้นจากการขยายจุดที่เป็นคอขวด ผลิตและขาย Laminate flooring เพิ่มขึ้น และมีรายได้จากการแผ่นพื้นไม้จริงเข้ามาช่วยเสริมในไตรมาส 2/59 รวมทั้งยอดขายของผลิตภัณฑ์ปลายน้ำอื่นที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง (ส่วนนี้มีตลาดหลักอยู่ในประเทศและมีคู่แข่งขันน้อย) โครงการลงทุนในอนาคต ที่สำคัญ คือ 1) โครงการก่อสร้างโรงงาน MDF board ชนิดบาง กำลังการผลิต 2 แสนลบม.
อสังหาริมทรัพย์ 07 ก. ค. 2559 เวลา 17:31 น. 14. 5k ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. เผยดัชนีราคาคอนโดฯพื้นที่ กทม. -นนทบุรี-สมุทรปราการ ไตรมาส 2/59 เพิ่มขึ้นมากสุด 5. 9% ส่วนบ้านเดี่ยวเพิ่ม 1. 6% ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานดัชนีราคาห้องชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ในไตรมาส 2 ปี 2559 พบว่า ห้องชุดที่มีระดับราคา 80, 001-120, 000 บาท/ตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้นมากสุด 5. 9% โดยพื้นที่พญาไท-ราชเทวี พื้นที่สุขุมวิทตอนต้น พื้นที่สีลม-สาทร-บางรัก พื้นที่นนทบุรี และพื้นที่ปทุมวัน ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ส่วนบ้านเดียว ดัชนีราคาเพิ่มขึ้น 1. 6% และทาวเฮ้าส์ เพิ่มขึ้น 2.
0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อแยกพิจารณาแต่ละช่วงระดับราคา พบว่า - ห้องชุดที่มีระดับราคาไม่เกิน 50, 000 บาท/ตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้น 2. 9% - ห้องชุดที่มีระดับราคา 50, 001-80, 000 บาท/ตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้น 4. 2% - ห้องชุดที่มีระดับราคา 80, 001-120, 000 บาท/ตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้น 5. 9% - ห้องชุดที่มีระดับราคามากกว่า 120, 000 บาท/ตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้น 4. 7% พื้นที่ซึ่งราคาห้องชุดปรับเพิ่มขึ้นมาก 5 ลำดับแรก ได้แก่ พื้นที่พญาไท-ราชเทวี พื้นที่สุขุมวิทตอนต้น พื้นที่สีลม-สาทร-บางรัก พื้นที่นนทบุรี และพื้นที่ปทุมวัน ส่วน ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว ในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ สำหรับไตรมาส 2 ปี 2559ปรับเพิ่มขึ้น 1. 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แยกรายละเอียดเป็น - ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว ในกรุงเทพฯ ปรับเพิ่มขึ้น 1. 7% - ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว ในนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ปรับเพิ่มขึ้น 1. 5% และดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ สำหรับไตรมาส 2 ปี 2559 ปรับเพิ่มขึ้น 2. 3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แยกรายละเอียดเป็น - ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในกรุงเทพฯ ปรับเพิ่มขึ้น 2.
VNG แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 15. 30 บาท อิงกับ P/E ปี 59 ที่ 15 เท่า และคาดการณ์ Dividend Yield ปีนี้ 4% ทั้งนี้กำไรสุทธิ ไตรมาส 1/59 คิดเป็น 20% ของประมาณการทั้งปี 59 ของเรา แต่แนวโน้มกำไร 2H59 จะแข็งแกร่งมากขึ้น จึงคงประมาณการกำไรของปีนี้ไว้เท่าเดิมที่ 1. 6 พันล้านบาท (+12%YoY) ความเสี่ยงหลัก คือ การแข่งขันในตลาดตะวันออกกลางที่รุนแรงกว่าคาด บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (17 พ. ค. ) ว่าบริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/59 เท่ากับ 319 ล้านบาท เติบโต 18%YoY และ 16%เทียบไตรมาสก่อนหน้าดีกว่าที่ตลาดประเมินไว้ แต่ต่ำกว่าที่เราคาดเล็กน้อย โดยยอดขายไตรมาสนี้เติบโต 2% และทรงตัว เทียบไตรมาสก่อนหน้าซึ่งดีกว่าที่เราประมาณการไว้ บ่งชี้ว่าปัญหาเรื่องการชำระเงินค่า MDF Board ไปส่งออกไปอิหร่านไม่ได้รุนแรงมาก และการให้ซื้อด้วยเงินสดก็เป็นไปได้ดีพอควร (บริษัทส่งออก MDF Board ไปตะวันออกกลาง 60% ของทั้งหมด) ปริมาณขาย Particle board ใน ไตรมาส 1/59 ยังต่ำเพราะเป็นช่วงปิดสายการผลิตเพื่อเปลี่ยนไปเป็น MDF board ซึ่งเริ่มทำมาตั้งแต่ก. ย. 58 และจะแล้วเสร็จใน 2Q59 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 27.
2% - ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ปรับเพิ่มขึ้น 2. 4%
ผลจากการเปรียบเทียบพบเบื้องต้นว่า ธันวาคม 2558 ถึง มีนาคม 2559 ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างปรับเพิ่ม 0. 45% 3. สำหรับในรายละเอียดพบว่า เนื่องจากกลุ่มวัสดุเหล็ก ราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน 4. ค่าแรงงาน พิจารณาเท่าเดิม ไม่มีการปรับเพิ่ม 5. เมื่อวิเคราะห์ทั้งค่าวัสดุ และค่าแรงงาน ทำให้ภาพรวมราคาค่าก่อสร้างอาคารปรับเพิ่ม +0. 27% โดยจะกระทบกับราคาค่าก่อสร้างที่มีราคาต่อตารางเมตรที่ค่อนข้างสูง (20, 000-30, 000 บาท) อยู่เล็กน้อย คือเพิ่มอีกตารางเมตรละ 100 บาท ส่วนราคาค่าก่อสร้างไม่สูง เมื่อทำการปัดเศษหลักร้อยไม่ส่งผลกระทบ ราคาคงเดิม ราคาค่าก่อสร้างจะส่งผลต่อราคาบ้านอย่างไรบ้าง หากสมมติกรณีนี้เป็นอาคารบ้านเดี่ยวหลังหนึ่ง ต้นทุนค่าก่อสร้างบ้าน จะเป็นประมาณ 1 ส่วน ส่วนต้นทุนที่ดินเป็น 2 ส่วน รวมเป็น 3 ส่วน ดังนั้นหากต้นทุนค่าก่อสร้างลดลง 1. 31% ส่วนต้นทุนที่ดินเพิ่มขึ้น 0. 5% โดยประมาณ จึงทำให้ราคาบ้านไม่เปลี่ยนแปลง ตามรายละเอียดดังนี้ = {1 * (1+0. 27%)} + {2 * (1 + 0. 5%)} = 3. 0127 หรือราว ๆ 3. 0 ซึ่งถือว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ดังนั้นราคาบ้านจึงไม่ได้เพิ่มขึ้นในรอบ 1 ไตรมาสที่ผ่านมา อันที่จริงราคาค่าก่อสร้างอาคารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะเศรษฐกิจของประเทศยังไม่กระเตื้องมากนัก การก่อสร้างต่าง ๆ จึงยังไม่มากนัก สำหรับราคาค่าก่อสร้างสามารถดูได้ที่เว็บไซต์นี้: หรือที่ ผู้แถลง: ดร.
โสภณ พรโชคชัย () ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ. 2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
45% ใน 1 ไตรมาสล่าสุด ดร. โสภณ พรโชคชัย ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ได้สรุปผลการจัดทำราคาค่าก่อสร้างอาคารล่าสุดโดยคณะทำงานของมูลนิธิที่มีนายสุรพงษ์ ตรีสุกล เป็นประธานคณะทำงาน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการใช้ในการประเมินค่าทรัพย์สินสำหรับสถาบันการเงิน บริษัทประเมิน และผู้สนใจอื่น ๆ โดยสรุปแล้ว ในรอบไตรมาสที่ 1/2559 (มกราคม-มีนาคม) ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0. 45% โดยมีรายละเอียดดังนี้: ราย วิเคราะห์ค่าวัสดุ ธค. 58/มีค. 59 มี. ค. -59 การ หมวด% เปลี่ยนแปลง สัดส่วนน้ำหนัก สัดส่วนใหม่ ดัชนีรวม 0. 30% 100 1 ไม้ -1. 10% 7. 7 7. 615 2 ซีเมนต์ -1. 40% 11. 79 11. 623 3 ผลิตภัณฑ์คอนกรีต 0. 10% 15. 95 15. 962 4 เหล็ก 6. 80% 21. 35 22. 809 5 กระเบื้อง 0. 00% 7 7 6 วัสดุฉาบผิว 0. 00% 2. 95 2. 95 7 สุขภัณฑ์ 0. 41 2. 41 8 อุปกรณ์ไฟฟ้า -0. 80% 12. 7 12. 602 9 วัสดุก่อสร้างอื่นๆ -3. 70% 18. 15 17. 479 โดยรวม 0. 45% 100 100. 45 โดยสรุปแล้วการปรับราคาค่าก่อสร้าง โดยใช้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างของทางราชการของเดือนมีนาคม 2559 มีผลออกมาดังนี้: 1. พิจารณาโดยเทียบเคียงกับเดือนธันวาคม 2558 ถึง มีนาคม 2559 2.