ลด 10% การจัดการแรงงานสัมพันธ์และกฎหมายแรงงาน แนวคิดและทฤษฎี รวมทั้งกฎหมายแรงงานที่ใช้เป็นหลักในการบริหารแรงงาน เหมาะกับนายจ้างและลูกจ้างด้านการจัดการแรงงานสัมพันธ์และกฎหมายแรงงาน หนังสือ 265. 50 บาท เนื้อหาโดยสังเขป หนังสือ "การจัดการแรงงานสัมพันธ์และกฎหมายแรงงาน" เล่มนี้ เรียบเรียงความรู้เกี่ยวกับแนวคิดและทฤษฎีแรงงานสัมพันธ์ รวมทั้งกฎหมายแรงงานที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งนายจ้างและลูกจ้าง นอกจากนี้ยังใช้เป็นตำราเรียนและหนังสือค้นคว้าสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี ในรายวิชาการจัดการแรงงานสัมพันธ์และกฎหมายแรงงาน คณะวิทยาการจัดการ บริหารธุรกิจ บริหารศาสตร์ การจัดการทรัพยากรมนุษย์ นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชน และสถาบันอุดมศึกษาทั่วไป เนื้อหาแบ่งออกเป็น 2 ภาค ได้แก่ ภาคที่ 1 แรงงานสัมพันธ์ (แนวคิดและหลักการแรงงานสัมพันธ์, พ. ร. บ. แรงงาน และ พ. แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์) และภาคที่ 2 กฎหมายแรงงาน (สัญญาจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์, พ. คุ้มครองแรงงาน พ. ศ. 2541 (แก้ไข 2560), พ. เงินทดแทน พ. 2537 (แก้ไข 2561), พ. ศาลแรงงานฯ พ. 2522 และ พ. ประกันสังคม พ. 2542 (แก้ไข 25561) โดยในเล่มได้อธิบายเนื้อหาอย่างเป็นลำดับขั้น เข้าใจง่ย พร้อมแบบฝึกหัดท้ายเล่มเพื่อทบทวนความรู้ความเข้าใจในบทเรียน สารบัญ ตอนที่ 1 แรงงานสัมพันธ์ - บทที่ 1 แนวคิดและหลักการแรงงานสัมพันธ์ - บทที่ 2 พ.
/โทรสาร 0-2246-8825, 0-2246-8455, 0-2246-8993, 0-2245-7688 7. ข้อคิดเตือนใจ 1. ใน ระหว่างการยื่นข้อเรียกร้องกฎหมายให้ความคุ้มครองลูกจ้าง ห้ามมิให้นายจ้าง เลิกจ้าง หรือกระทำการใดๆ อันอาจเป็นผลให้ลูกจ้างไม่สามารถทนทำงานอยู่ต่อไปได้โดยอาจถือว่า เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมของนายจ้างได้ (มาตรา 52, 121, 122, 123) 2. การนัดหยุดงานผิดขั้นตอนอาจถูกเลิกจ้างและถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 3. ระหว่างเจรจาข้อพิพาทแรงงานอย่ากระทำการใดๆอันเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่นหรือผิดกฎหมายใดๆ 4. ระหว่างนัดหยุดงานนายจ้างมีสิทธิไม่จ่ายค่าจ้าง 5. การเรียกร้องการเจรจา ควรเป็นไปด้วยเหตุผล หลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์และกระทำที่เป็นการยั่วยุอีกฝ่ายหนึ่ง 6. ควรระลึกอยู่เสมอว่าทั้งนายจ้างและลูกจ้างจะต้องกลับไปทำงานร่วมกันอีก 7.
การ เสริมสร้างระบบแรงงานสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง หรือสหภาพแรงงาน ทั้งสองฝ่ายจะต้องปรับตัวเข้าหากัน โดยอยู่บนพื้นฐานของคำว่า "การเป็นผู้ให้และการเป็นผู้รับ" กล่าว คือ นายจ้างจะต้องเป็นผู้ให้ในสิ่งที่ลูกจ้างต้องการอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ ขณะเดียวกันลูกจ้างก็จะต้องเป็นผู้ให้ผลงาน หรือการทำงานที่ดีมีประสิทธิภาพและคุณภาพกับฝ่ายนายจ้าง เพื่อเป็นการตอบแทนเช่นกัน HR มือใหม่ ควรจะได้ศึกษาพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ. ศ. 2518 ให้เกิดความเข้าใจในกระบวนการขั้นตอนของระบบแรงงานสัมพันธ์ ดังนี้ 1. การเรียกร้องขอปรับปรุงสภาพการจ้าง ถ้านายจ้างหรือลูกจ้างเห็นว่า สภาพการจ้าง เช่น กำหนดเวลาทำงาน ค่าจ้าง สวัสดิการต่างๆ ไม่เหมาะสม พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ. 2518 บัญญัติ ให้ลูกจ้าง หรือนายจ้างมีสิทธิยื่นข้อเรียกร้องต่ออีกฝ่ายหนึ่งได้ เช่น ลูกจ้างขอขึ้นค่าจ้าง ขอเสื้อผ้าชุดทำงาน เป็นต้น และให้ทั้งสองฝ่ายตั้งผู้แทนมาเจรจาต่อรองกัน เมื่อตกลงกันได้ ก็จะเกิดสภาพการจ้างใหม่ที่เป็นไปตามข้อตกลงนั้นๆ 2. การยื่นข้อเรียกร้องที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีคำถามว่า เมื่อไรจึงจะยื่นข้อเรียกร้องได้ ถ้าในกรณีมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมาก่อน ให้ยื่นภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิม แต่ถ้าไม่กำหนดระยะเวลาไว้ให้ยื่น เมื่อข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่ทำไว้ใกล้จะครบกำหนดอายุข้อตกลง เช่น 30 หรือ 60 วัน ก่อนวันครบอายุข้อตกลง เพื่อทั้งสองฝ่ายจะได้มีเวลาเจรจาต่อรองทำข้อตกลงใหม่ต่อเนื่องจากข้อตกลงเดิม แต่ในกรณีที่ยังไม่เคยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมาก่อนเลย จะยื่นข้อเรียกร้องเมื่อไรก็ได้ 3.
พระราชบัญญัติประกันสังคม พ. 2533 เป็นกฎหมายที่กำหนดถึงการจัดตั้งกองทุนประกันสังคม การส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน และการให้ประโยชน์ทดแทนแก่ผู้ประกันตนในลักษณะต่างๆ 5. พระราชบัญญัติเงินทดแทน พ. 2537 เป็นกฎหมายที่กำหนดถึงหน้าที่นายจ้างในการจ่ายเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน และในการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทน 6. พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.
สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพิษณุโลก ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก (หลังใหม่) ชั้น 3 ถนนวังจันทน์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์/โทรสาร 0 5525 8869, 0 5528 2191 E-mail: เว็บไซต์: Facebook: สนง. สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จังหวัดพิษณุโลก / Youtube: สสค. พิษณุโลก / Tiktok: @phitsanuloklabour258869
ชื่ อเรื่อง: การจัดการแรงงานสัมพันธ์และกฎหมายแรงงาน ชื่อผู้แต่ง: สมคิด บางโม Call Number: 658. 513 ส234ก 2563 รายละเอียด: แนะนำหนังสือ 18 พ. ค. 2564 หนังสือ "การจัดการแรงงานสัมพันธ์และกฎหมายแรงงาน" หนังสื อ เล่มนี้ รวบรวม ความรู้เกี่ยวกับแนวคิดและทฤษฎีแรงงานสัมพันธ์ รวมทั้งกฎหมายแรงงาน เช่น พ. ร. บ. แรงงานสัมพันธ์ พ. ศ. 2518 (แก้ไข พ. 2544), พ. แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์, สัญญาจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์, พ. คุ้มครองแรงงาน พ. 2541 (แก้ไข พ. 2560), พ. เงินทดแทน พ. 2537 (แก้ไข พ. 2561), พ. จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ. 2522, พ. ประกันสังคม พ. 2542 (แก้ไข 25561) และ หนังสือเล่มนี้ ได้อธิบายเนื้อหาเป็นขั้นตอน ทำให้ผู้อ่านและผู้ที่สนใจเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น Link to Library Row Hit Heading 1 การจัดการแรงงานสัมพันธ์และกฎหมายแรงงาน / สมคิด บางโม การจัดการแรงงานสัมพันธ์และกฎหมายแรงงาน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 เอกเทศสัญญา ลักษณะ 6 การจ้างแรงงาน เป็นกฎหมายที่กล่าวถึงลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน เงื่อนไขในการจ่ายค่าจ้าง และเงื่อนไขในการเลิกจ้างแรงงานต่อกัน ทั้งนี้ถือว่าการจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทนชนิดหนึ่งที่ทั้งสองฝ่ายมีสิทธิและหน้าที่อันจะต้องปฏิบัติต่อกัน 2. พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ. ศ. 2518 เป็นการกำหนดขั้นตอนและวิธีการที่นายจ้างและลูกจ้างจะยื่นข้อเรียกร้องต่อกัน กระบวนการในการเจรจาต่อรอง ขั้นตอนในการระงับข้อพิพาทแรงงาน เงื่อนไขในการนัดหยุดงานหรือปิดงาน และบทบาทของรัฐในการระงับข้อพิพาทแรงงาน นอกจากนี้ยังรวมถึงการก่อตั้งและการดำเนินงานขององค์การนายจ้าง องค์การลูกจ้าง และการกระทำอันไม่เป็นธรรมด้วย ในส่วนของพนักงานรัฐวิสาหกิจได้มีการออกพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ. 2543 กำหนดความสัมพันธ์ของพนักงานรัฐวิสาหกิจและฝ่ายบริหารไว้ต่างหาก 3. พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ. 2522 เป็นกฎหมายที่กำหนดกระบวนการฟ้องคดีในศาลแรงงาน และวิธีที่ศาลแรงงานจะพิจารณาคดี ซึ่งเน้นในหลักการสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม เพื่อผดุงไว้ซึ่งความเป็นธรรม และความสงบสุขด้านแรงงานสัมพันธ์ของประเทศ 4.