ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวขาบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด ดื่มน้ำเปล่าให้มาก ประมาณ 2-2.
5 ลิตรต่อวัน ทานมากไปก็ไม่ดี ถ้าทานอาหารไม่ได้เลย ควรทานน้ำเกลือแร่ ถ้าไม่มีให้ผสมเกลือ 1 ช้อนชากับน้ำตาลลงในน้ำแล้วดื่ม ทานยาประจำตัวสม่ำเสมอ อย่าขาด กรณีที่เป็นเบาหวาน ควรตรวจน้ำตาลบ่อย ๆ ถ้าน้ำตาลต่ำ ควรงดอินซุลิน หรือยาทาน ถ้าเป็นโรคความดันโลหิตสูง ควรวัดความดันบ่อย ๆ ถ้าต่ำ 90/60 ควรงดยา ถ้าทานยาขับปัสสาวะอยู่ และทานน้ำไม่ได้ ให้งดยาไปก่อน นพ.
หากมีค่าออกซิเจนในเลือดระดับต่ำกว่า 94% ให้วัดค่าออกซิเจนในเลือดทันที หลังจากการลุกนั่งในเวลา 1 นาที หรือการกลั้นหายใจ ในเวลา 10 – 15 วินาที วิธีเช็ค "อาการโควิดลงปอด" หรือไม่ เดินไปมา ลุกยืนหรือลุกนั่ง 3 ครั้ง หรือ กลั้นหายใจ 10 – 15 วินาที หากทำแล้วเหนื่อย และวัดออกซิเจนในเลือดได้ต่ำกว่า 94 ลงไป ให้สงสัยว่าเชื้อโควิดลงปอดไว้ก่อน การรักษา "อาการโควิดลงปอด" 1. การใช้ยาต้านไวรัส ซึ่งยาต้านไวรัสจะเข้าไปฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสโควิด-19 แบ่งตัวเพิ่มเติม และทำลายเซลล์ในอวัยวะต่างๆ อีกทั้งยังมีการใช้ยาต้านไวรัสร่วมกับยาแก้อักเสบ เพื่อลดการอักเสบภายในร่างกาย 2. การใช้เครื่องช่วยหายใจ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก โดยเฉพาะบริเวณเนื้อปวดที่ถูกทำลาย หรือปอดมีอาการบวมน้ำ 3. ใช้เครื่องปอด - หัวใจเทียมแบบเคลื่อนย้าย (Extracorporeal Membrane Oxygenation) หรือ ECMO ซึ่งเครื่องมือชนิดนี้ สามารถฟอกโลหิตของผู้ป่วยแล้วเติมออกซิเจนเข้าไป ก่อนที่จะคืนกลับเข้าไปในร่างกายของผู้ป่วย ที่มา: โรงพยาบาลเพชรเวช, โรงพยาบาลศิครินทร์
อาการโควิด เมื่อเชื้อลงสู่ปอด จะเป็นอย่างไร อาการโควิดลงปอดเป็นอย่างไร ป่วยแล้วเป็นทุกคนไหม มาดูวิธีเช็กว่าเชื้อลงปอดหรือยังเบื้องต้น เพื่อตรวจสอบตัวเองก่อน ปอดอักเสบลุกลาม อาการโควิดที่พบส่วนใหญ่ คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ คล้ายกับไข้หวัดทั่วไป ซึ่งหากภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรงพอจะสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัส และรักษาตัวให้หายได้เอง ทว่าความอันตรายของโรค COVID-19 อยู่ตรงที่เชื้อไวรัสนี้มีโอกาสลงปอดได้ง่าย โดยเฉพาะสายพันธุ์อังกฤษ B. 1.
ยืดเหยียดปลายเท้า งอขา ส่งผลให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้น และป้องกันการเกิดลิ่มเลือดได้ดี 3. ดื่มน้ำให้มากกว่า 2 ลิตร ต่อวัน และรับประทานอาหารให้พออิ่ม ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ควรบริโภคเครื่องดื่มเกลือแร่แทน 4. หากมีอาการไข้ขึ้น ให้รับประทานยาพาราเซตามอลเท่านั้นโดยทันที ไม่ควรปล่อยให้ไข้ขึ้นสูงแล้วจึงรับประทานยา ในกรณีผู้ป่วยโรคตับห้ามรับประทานยาพาราเซตามอลโดยเด็ดขาด เป็นอันตรายอาจเกิดอาการตับวาย ควรใช้วิธีการลดไข้ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดตัวเพียงเท่านั้น 5. สำหรับผู้ที่มียาประจำตัวให้รับประทานอย่างสม่ำเสมอ กรณีมีโรคความดันโลหิตสูงควรวัดความดันต่อเนื่อง รวมถึงการเตรียมยาและอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ เช่น ยาลดไข้ และเครื่องวัดค่าออกซิเจนในเลือดบริเวณปลายนิ้ว ควบคู่กับการดูแลรักษาสุขภาพ ภายใต้คำแนะนำจากแพทย์อย่างใกล้ชิด 6. ควรขับถ่ายด้วยการใช้กระโถน ไม่ควรลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ เพราะมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการเป็นลม หมดสติ หัวใจหยุดเต้น จนเสียชีวิตในที่สุด การรักษาโควิดลงปอด 1. การใช้ยาต้านไวรัส ซึ่งยาต้านไวรัสจะเข้าไปฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสโควิด-19 แบ่งตัวเพิ่มเติม และทำลายเซลล์ในอวัยวะต่างๆ อีกทั้งยังมีการใช้ยาต้านไวรัสร่วมกับยาแก้อักเสบ เพื่อลดการอักเสบภายในร่างกาย 2.
8 ล้านบาท เงินชดเชยรายได้สูงสุด 1, 200 บาท/วัน แผนประกัน อุบัติเหตุออนไลน์ "คุ้มครองคูณสาม รับกรมธรรม์ทันที" ให้ความคุ้มครอง 3 เท่าสูงสุด 6. 6 ล้านบาท พร้อมค่ารักษาสูงสุด 60, 000 บาท/ครั้ง/อุบัติเหตุ
แน่นหน้าอก 2. หายใจลำบาก หายใจติดขัด หายใจไม่อิ่ม 3. เหนื่อย หอบ แน่นหน้าอก แม้ว่าจะไม่ได้ออกแรงกระทำการใดก็ตาม 4. ไข้ขึ้นมากกว่า 37. 5°C ขึ้นไป 5. มีอาการไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ 6. การใช้อุปกรณ์วัดค่าออกซิเจนในเลือดบริเวณปลายนิ้ว (Fingertip Pulse Oximeter) ค่าออกซิเจนในเลือดไม่ควรมีระดับต่ำกว่า 95% และควรวัดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง 7. การวัดค่าออกซิเจนในเลือดทันที หลังจากการลุกนั่งในเวลา 1 นาที หรือการกลั้นหายใจ ในเวลา 10 – 15 วินาที หากมีค่าออกซิเจนในเลือดระดับต่ำกว่า 94% ทั้งนี้ หากมีอาการที่กล่าวมานี้ควรรีบแจ้งแพทย์โดยเร็ว เพื่อแพทย์จะเอกซเรย์ปอด หรือ CT Scan เพื่อวินิจฉัยภาวะปอดอักเสบก่อนทำการรักษา โควิดลงปอดควรทำอย่างไร เมื่อเชื้อไวรัสโควิดลงปอดในผู้ป่วยที่กำลังรอเข้ารับการรักษา Hospitel หรือผู้ป่วยที่รักษาแบบ Home Isolation สามารถลดความรุนแรงของอาการได้ด้วยการปฏิบัติดังนี้ 1. นอนคว่ำหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงในการที่ปอดถูกกดทับ หรือนอนกึ่งตะแคงกึ่งคว่ำ 45 องศา ในกรณีผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ควรนอนตะแคงไปทางด้านซ้าย เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำหนักของมดลูกไปกดทับเส้นเลือดใหญ่ดำ ส่งผลให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้น 2.
1442 สายด่วนกรมควบคุมโรค รักษาโควิดจนหาย ปอดจะเป็นยังไงต่อจากนี้?
การใช้เครื่องช่วยหายใจ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก โดยเฉพาะบริเวณเนื้อปวดที่ถูกทำลาย หรือปอดมีอาการบวมน้ำ 3. การใช้เครื่องปอด - หัวใจเทียมแบบเคลื่อนย้าย (Extracorporeal Membrane Oxygenation) หรือ ECMO ซึ่งเครื่องมือชนิดนี้ สามารถฟอกโลหิตของผู้ป่วยแล้วเติมออกซิเจนเข้าไป ก่อนที่จะคืนกลับเข้าไปในร่างกายของผู้ป่วย ขอบคุณข้อมูล: โรงพยาบาลเพชรเวช, โรงพยาบาลศิครินทร์