ตรวจโครงสร้างเดิม เริ่มต้นจากการตรวจโครงสร้างเดิมประตูรั้ว ซึ่งคุณต้องดูว่ากำแพงเดิมเป็นปูน หรือเหล็ก และจะสามารถรองรับต่อน้ำหนักของประตูใหม่ที่คุณจะนำมาติดตั้งได้หรือไม่ พร้อมการตรวจสอบล้อ และรางเลื่อน รวมไปถึงเพลาที่จะต้องถูกทำความสะอาด เพื่อให้มีความเรียบลื่นสม่ำเสมอ ต้องไม่ฝืด และไม่สกปรก เพื่อป้องกันปัญหาการเปิด-ปิดที่ไม่เป็นดั่งใจและอาจก่อให้เกิดความเสียหายง่าย ทั้งยังอาจทำให้ประตูแกว่งจนเกิดอุบัติเหตุได้ 2. ไม่ติดประตูเล็ก-ใหญ่ร่วมกัน หนึ่งในเรื่องที่ควรพิจารณาให้ดี คือ ไม่ควรติดตั้งประตูสำหรับให้คนเข้าออก หรือประตูขนาดเล็ก ให้อยู่ในบานเดียวกันกับประตูใหญ่ โดยเฉพาะประตูที่เป็นแบบอัตโนมัติ เพราะอาจทำให้ส่วนของประตูบานเล็กปิดได้ไม่สนิท ทำให้ระบบเกิดปัญหาได้ง่าย และทำให้ประตูอัตโนมัติเสียหายได้อย่างรวดเร็ว 3. เลือกวัสดุให้ดี เลือกวัสดุทำประตูให้ดี ถ้าเลือกใช้เป็นประตูไม้ ควรมีการเคลือบสารกันฝน กันปลวก หรือเลือกใช้เป็นประตู ไม้เทียม และไม้สังเคราะห์ที่จะมีความแข็งแรงอยู่เสมอ นอกจากนี้ปัญหาประตูไม้ คือ อาการบวมจากการโดนฝน เนื้อไม้จะอมน้ำ และเพิ่มน้ำหนักของประตูให้มากขึ้นกว่าเดิม 30% จึงส่งผลให้มอเตอร์ของประตูเสียหายได้ง่าย ดังนั้น ผู้ที่ติดตั้งประตูอัตโนมัติส่วนใหญ่ จึงเลือกใช้เป็นประตูเหล็ก หรือสแตนเลสมากกว่า 4.
สามารถใส่อุปกรณ์ล็อกแบบล็อกหลายจุด (Multi-point lock) ปัจจุบันมีอุปกรณ์ล็อกประตูหน้าต่างหลากหลายรูปแบบมากขึ้น จากเดิมที่มีระบบล็อกมาตรฐานซึ่งมีจุดล็อกเพียงจุดเดียว (Single lock) ปัจจุบันมีระบบล็อกหลายจุดที่เมื่อกดล็อกเพียงครั้งเดียว ตัวล็อกจะทำงานพร้อมกันหลายๆจุดในบานเดียวกัน ทำให้บานประตูหน้าต่างปิดสนิทมากขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะบานประตูหน้าต่างขนาดใหญ่หรือบานสูงๆ ที่นิยมกันในปัจจุบัน ซึ่งหากไม่มีระบบล็อกหลายจุดอาจจะทำให้บานปิดไม่สนิทและไม่แข็งแรง 4.
ติดตั้งเองได้ไหม? สำหรับการติดตั้งบนบานประตูนั้นสามารถทำได้ไม่ยาก โดยดูวิธีการได้จากรายการ " ช่างประจำบ้าน " ซึ่งคุณจะออกแบบเองทั้งหมดก็ได้ หรือจะซื้อบานกึ่งสำเร็จรูปมาติดตั้งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกดี แต่สำหรับการติดตั้งโดยการเจาะผนัง หรือบานกระจก อาจจะยากเกินไปสักหน่อย แนะนำให้ปรึกษาช่างผู้ชำนาญจะดีกว่า ทั้งนี้ร้านที่ขายบานสำเร็จเหล่านี้ส่วนใหญ่ ก็มักจะมีบริการติดตั้งรวมอยู่ด้วยเเล้ว วิธีทำประตูหมาเเมว ราคาแพงไหม?