1000 ไปจนถึงแถวๆ ค. 2037 อย่างที่บอก แต่หากเก็บเป็น VARCHAR นั้นจะไม่ติดข้อจำกัดนี้ ฟิลด์ชนิด YEAR ก็เช่นกันครับ… ใช้เนื้อที่แค่ 1 ไบต์เท่านั้นในการ เก็บข้อมูล แต่ข้อจำกัดจะอยู่ที่ ปี ค. 1901 ถึง 2155 เท่านั้น (หรือ ค.
2 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 4 ประเภท 14. แอททริบิวต์ในเอนทิตี้หนึ่ง ที่ไปอ้างถึงแอททริบิวต์ซึ่งเป็นคีย์หลักในอีกเอนิตี้หนึ่งมีความสัมพันธ์กัน เราเรียกแอททริบิวต์นั้นว่าอะไร ก. Candidate Key ข. Composite Key ค. Foreign Key ง. Alternate Key 15. ข้อใดกล่าวถึงคุณสมบัติของคีย์หลัก ง. ไม่มีข้อใดถูก
1 ฐานข้อมูลสำหรับงานประจำวัน เป็นระบบฐานข้อมูลที่ใช้ในงานประจำวันของพนักงานระดับปฏิบัติการป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบ เช่น งานสินค้าคงคลัง งาน ระบบซื้อมาขายไป สำหรับร้านสะดวกซื้อ หรือระบบงานขายของร้านค้าทั่วไป เป็นต้น ฐานข้อมูลประเภทนี้มีการนำข้อมูลเข้า เปลี่ยนแปลงและลบออกตลอดทั้งวัน จึงทำให้ข้อมูลเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 4. 2 ฐานข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ ระบบฐานข้อมูลประเภทนี้มีไว้เพื่อใช้ในการสนับสนุนการตัดสินใจของผู้ใช้ระดับผู้บริหารระดับกลางขึ้นไป ข้อมูลที่นำเข้ามาในระบบได้จากการป้อนข้อมูลงานประจำวันของฐานข้อมูลสำหรับงานประจำวัน ส่วนใหญ่ฐานข้อมูลประเภทนี้นำไปใช้ในงานวางแผนกลยุทธ์ในองค์กร 4. 3 ฐานข้อมูลเพื่อเป็นคลังข้อมูล ฐานข้อมูลประเภทนี้เกิดจากการนำข้อมูลเข้ามาในระบบทุก ๆ วันจึงทำให้เกิดมีข้อมูลขนาดใหญ่ จึงนำเอาข้อมูลที่มีประโยชน์มาสร้างฟังก์ชันหรือสมการต่างเพื่อประมวลผลหาผลลัพธ์ต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์กับองค์กร การออกแบบฐานข้อมูล ( Designing Databases) มีความสำคัญต่อการจัดการระบบฐานข้อมูล ( DBMS) ทั้งนี้เนื่องจากข้อมูลที่อยู่ภายในฐานข้อมูลจะต้องศึกษาถึงความสัมพันธ์ของข้อมูล โครงสร้างของข้อมูลการเข้าถึงข้อมูลและกระบวนการที่โปรแกรมประยุกต์จะเรียกใช้ฐานข้อมูล ดังนั้น เราจึงสามารถแบ่งวิธีการสร้างฐานข้อมูลได้ 3 ประเภท 1.
บบฐานข้อมูลได้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บและเรียกใช้ โดยจะมีโครงสร้างของการออกแบบฐานข้อมูลแบ่งได้เป็น 3 แบบด้วยกัน 1. ฐานข้อมูลเชิงชั้น ( Hierarchical Database) เป็นฐานข้องมูลที่มีการจัดลำดับความสำคัญของข้อมูล 2. ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย ( Network Database) เป็นฐานข้อมูลที่มีความสัมพันธ์ระหว่างแฟ้มข้อมูลเชื่อมโยงถึงกันหมด 3. ฐานข้อมูลแบบสัมพันธ์ ( Relation Database) เป็นฐานข้อมูลที่จัดเก็บในรูปของตารางข้อมูล โดยข้อมูลแต่ละส่วนจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน นั่นหมายความว่า เมื่อทราบข้อมูลส่วนหนึ่ง จะมีผล ให้สามารถทราบข้อมูลส่วนอื่นๆ ที่สัมพันธ์กันได้
ความแตกต่างจาก Traditional (CI) และ HCI มีความแตกต่างกันอย่างไร? แล้วองค์กรจำเป็นจะต้องเปลี่ยนไปใช้หรือไม่?
ได้มานั่งแกะ Clip VDO จาก AWS Quick Start เป็นหน้าหาของ Session ที่มีชื่อว่า AWS Purpose-Built Database Strategy: The Right Tool for The Right Job หรือที่ทาง Amazon แปลมาว่า ฐานข้อมูลตามวัตถุประสงค์ — เลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับแต่ละงาน หลังจากที่ได้นั่งฟังไปก็รู้สึกว่ามันมีประโยชน์นะ หลายๆคนก็ยังไม่รู้ว่า DB ในปัจจุบันมันมีอะไรบ้าง โลกนี้ไม่ได้มีแต่ DB แบบ Relational Database ที่จะต้องเขียนภาษา SQL ไป query ข้อมูลนะครับ!